น้ำอ้อย
หมวด : เครื่องดื่มผลิตภัณฑ์
ประวัติความเป็นมา
น้ำอ้อยเป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งที่ทำจากอ้อยโดยใช้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นของเกษตรกรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ไม่มากนักอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เครื่องมือและอุปกรณ์การพัฒนาที่แปลงไปตามสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลงไป เช่น ในสมัยก่อนใช้แรงงานสัตว์ช่วยในการหีบอ้อย เปลี่ยนเป็นใช้เครื่องยนต์แทน จากที่เคยปลูกอ้อยพันธุ์พื้นเมืองก็เปลี่ยนเป็นพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิต มากกว่าเดิม และทำเป็นก้อน น้ำอ้อยสมัยก่อนจะใช้วิธีตักหยอดที่ละก้อน ปัจจุบันก็ใช้วิธีเทลงบนแบบพิมพ์ ซึ่งทำได้เร็วกว่า และทำเป็นน้ำอ้อยผงตามที่พ่อค้าต้องการ การทำน้ำอ้อยถือได้ว่าเป็นการแปรรูป ผลผลิต ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่าโดยเกษตรกรเองศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทราย หมู่ที่ 9 ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง ได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการที่จะต้องซื้อกาก น้ำตาล เพื่อมาผลิตน้ำหมักชีวภาพ โดยได้ปลูกอ้อยในพื้นที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทราย เพื่อนำเอาน้ำอ้อยที่ผลิตแทนน้ำตาลทรายเพื่อบริโภคในครัวเรือน เป็นการลดรายจ่ายจากการซื้อน้ำตาลจากท้องตลาดมาใช้บริโภคในครัวเรือน และเมื่อเหลือจากการบริโภคในครัวเรือนจึงนำมาจำหน่ายให้คนที่สนใจเข้ามา ศึกษาดูงานในศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทราย
กระบวนการผลิต
วัตถุดิบและส่วนประกอบ



ต้นอ้อย
ขั้นตอนการผลิต



1. หีบอ้อยแล้วนำน้ำอ้อยไปกรองให้สะอาด แล้วไปเคี้ยวควรเคี้ยวภายในวันนั้น ถ้าทิ้งไว้ข้ามคืน จะทำให้การเคี้ยวให้เป็นน้ำตาลได้ยาก ก่อไฟเตรียมไว้ แล้วตั้งกระทะเตรียมไว้เพื่อใส่น้ำอ้อยโดยการใส่น้ำเปล่าทิ้งไว้ก่อน ควบคุมไฟให้สม่ำเสมอ
2. นำน้ำอ้อยที่ผ่านการกรองด้วยผ้าขาวบางแล้ว ใส่ลงในกระทะ แล้วใส่น้ำปูนใสขาวประมาณ 1 ทับพีต่อน้ำอ้อย 1 ลิตร เพื่อให้น้ำอ้อยเกิดการแข็งตัวโดยเร็ว เมื่อน้ำอ้อยเริ่มเดือด ทำการซ้อนฟองและสิ่งเจือปนออกให้สะอาด
3. เมื่อน้ำอ้อยเดือดมากขึ้น นำกระโจมไม้ไผ่มาครอบเพื่อป้องกันน้ำอ้อยล้นกระทะ การใส่ไฟต้องให้สม่ำเสมอที่สุด เมื่อครอบกระโจมแล้ว ถ้ายังเกิดฟองสีคล้ำ ๆ เกิดขึ้นรอบกระโจมด้านนอก ให้ใช้มือซ้อนเล็ก ๆ ที่ทำจากไม้ไผ่ ซ้อนฟองสีคล้ำออก
4. เมื่อน้ำอ้อยเดือดมากจนกลายเป็นน้ำเชื่อม จะยุบตัวต่ำกว่ากระโจมครอบ แล้วยกกระโจมครอบออกได้ พร้อมกันนั้นให้ใช้มือซ้อน (ไม้ไผ่สาน) ต้องกวนน้ำเชื่อมให้ทั่ว ๆ กระทะถ้าไม่กวน จะทำให้เกิดน้ำเชื่อมไหม้ที่ขอบกระทะ และต้องสังเกตไฟตลอดเวลา เมื่อดูด้วยสายตาเห็นว่าน้ำเชื่อมยุบตัวแล้วจะใช้กวนเป็นน้ำตาลได้หรือยัง โดยให้ใช้ไม้แป้นตักน้ำเชื่อมไปทดสอบโดยการเขย่าในน้ำเย็น ให้น้ำเชื่อมหลุดจากแป้น ถ้าบีบดูแล้วน้ำเชื่อมยังอ่อนตัวอยู่ให้เคี้ยวต่อไปจนกว่าน้ำเชื่อมจะแข็ง ตัว ทดสอบโดยการปั้นน้ำเชื่อมให้เป็นก้อนแล้วโยนก้อนน้ำเชื่อมให้กระทบขอบอ้าง ดินเผา จะเกิดเสียงคล้ายของแข็งกระทบกันเป็นอันว่าได้
5. ระหว่างรอน้ำเชื่อมจะใช้กวนได้หรือไม่ได้นั้นให้เตรียมวงไว้เป็นแถว ๆ ที่วางบนผ้าขาวบาง โดยวงจะต้องแช่น้ำเย็นให้เปียกก่อนใช้เรียง เพื่อความคล้องตัวตอนแคะน้ำตาลออก เมื่อแคะน้ำตาลออกแล้วก่อนใช้วงอีกต้องล้างในน้ำเย็นให้น้ำตาลออกให้หมด จึงจะนำไปใช้หยอดไหม เมื่อน้ำเชื่อมใช้กวนได้แล้ว ให้ใช้มือตักใส่อ้างดินเผา ประมาณขอบอ้าง และใช้ไม้คนในอ้างจนกว่าน้ำเชื่อมจะเป็นน้ำตาล แล้วใช้ไม้แป้นหยอดใสวงที่เตรียมไว้
6. 7. ยอดน้ำเชื่อมใส่วงแล้วทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที หรือสังเกตด้วยสายตาหรือสัมผัส เมื่อน้ำตาลแข็งตัวแล้วแคะออกจากวง
ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทรายที่อยู่ 119 9 - - ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57230
0-8170-69687
ประธานกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทรายที่อยู่ 119 9 - - ตำบลเชียงเคี่ยน อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57230
0-8170-69687
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านสันทราย 119 หมู่ที่ 9 ต.เชียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย57230 โทร. 0-8170-69687จักสานผักตบชวา
หมวด : ของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึกผลิตภัณฑ์
ประวัติความเป็นมา

ผักตบชวา เป็นวัชพืช ที่ไม่มีใครต้องการ แต่ละคนแต่ละท่านจะมีวิธีทำลายที่แตกต่างกัน แต่ที่บ้านเกี๋ยงลุ่ม ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีวิธีการนำเอาผักตบชวา มากำจัด และเพิ่มมูลค่าในตัวของมันเอง ได้อย่างลงตัวและเหมาะสม โดยบรรดา พ่อบ้านจะออกไปตัดผักตบชวาจากที่ต่างๆ แล้วนำเข้ามาในหมู่บ้านเกี๋ยงลุ่มเพื่อแปรรูปเพิ่มมูลค่า
การผลิตหรือการสานผักตบชวา จึงเป็นภูมิปัญญาที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ฝีมือดี การรวมกลุ่มดี มีแนวทางในการดำเนินการได้อย่างรัดกุม มีอนาคต กลุ่มสานผักตบชวาบ้านเกี๋ยงลุ่ม จึงเป็นกลุ่มที่สมควรได้รับการสนับสนุนอย่างยิ่ง เพราะ นอกจากจะกำจัดวัชพืช คือผักตบชวาแล้ว ยังสามารถนำมาผลิตเพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น ได้อย่างครบวงจรและลงตัว จึงน่าชื่นชมในความสำเร็จ ของกลุ่มสานผักตบชวาของบ้านเกี๋ยงลุ่ม ที่มีผู้นำที่เข้มแข็ง
กลุ่มจักสานผักตบชวา บ้านเกี๋ยงลุ่ม หมู่ที่ ๓ ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ได้ดำเนินการตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ มีสมาชิกเริ่มก่อตั้งจำนวน ๑๐ คน ได้มีการระดมหุ้นเพื่อใช้ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการผลิต คนละ ๑๐๐ บาท ผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มจัดทำเป็นตัวแรก คือ กระเป๋าสะพายขนาดกลาง
เนื่องจากครั้งแรกที่เริ่มจัดตั้งกลุ่มได้เรียนรู้การจักสานกระเป๋าจาก ปราชญ์ชาวบ้าน ที่เรียกกันติดปากว่าแม่ครูสุภาพ ซึ่งเป็นราษฎร์จากอำเภอปง จังหวัดพะเยา เมื่อนำผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีพอสมควร แต่ก็มีอุปสรรคคือ รูปแบบของกระเป๋าที่นำออกจำหน่ายไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้าบางกลุ่ม ต่อมาทางกลุ่มจักสานผักตบชวาจึงได้คิดค้นรูปแบบและลวดลายกระเป๋าแบบใหม่ๆ และศึกษาดูงานจากกลุ่มที่มีผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงกัน โดยนำมาประยุกต์ให้ทันสมัยมากขึ้น เพิ่มเติมในรายละเอียด สีสัน และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้มีการขยายผลิตภัณฑ์จนติดตลาดทั้งในและต่างจังหวัด รวมถึงส่งออกขายต่างประเทศ จนได้รับมาตรฐาน มผช.
อัตลักษณ์(เอกลักษณ์)/จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ

มาตรฐาน มผช. ปี ๒๕๕๕
ความสัมพันธ์กับชุมชน
ฝีมือ แรงงาน คือคนในชุมชนอย่างแท้จริง ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นจึงทำให้คนในชุมชนมีความผูกพันกันเหมือนญาติพี่น้องกระบวนการผลิต
วัตถุดิบและส่วนประกอบ



๑. ตันผักตบชวา เปีย เส้นไพร
๒. เข็ม ด้าย กรรไกร เข็มหมุด สายวัด
๓. หุ่นโฟม หุ่นไม้
๔. ผ้าซับใน ซิป
๕. หูไม้ ห่วงพลาสติก สายหนัง ลูกปัด
๖. น้ำมันเคลือบเงา
๗. สีย้อมผ้า
ขั้นตอนการผลิต



๑. การตัดผักตบชวา ต้องเลือกตัดผักตบชวาที่ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป มีความยาวประมาณ ๗๐-๘๐ ซม. และ ๑ กอจะตัดเพียง ๔ ต้นเท่านั้น
๒. เมื่อตัดเสร็จแล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด นำไปตากแดดให้แห้ง ๗ วัน หรือจนกว่าจะแห้งสนิท
๓. เมื่อแห้งแล้ว จึงนำมาอบกำมะถัน อบนาน 1 วัน เพื่อให้คงสีสวยงาม เหนียวนุ่ม และป้องกันเชื้อรา
๔. นำผักตบชวาที่อบกำมะถันมาผึ่งให้แห้ง แล้วนำมาคัดเลือกเส้นเพื่อจักสาน
๕. นำก้านผักตกชวามาตัดเป็นเส้น เพื่อให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ หรือหากต้องการสีต้องนำก้านผักตบชวามาย้อมสี แล้วตากแดดให้แห้ง
๖. นำมาถักตามแบบที่ต้องการ นำต้นผักตบชวาที่ตากแห้งและย้อมสีแล้วมาชุบน้ำก่อนจะเริ่มจักสานตามแบบพิมพ์ ลวดลายที่จักสานมีหลายลาย เช่น ลายเปีย ซึ่งเป็นลายที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เกือบทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีลายเม็ดข้าว ลายมะยม ลายน้ำไหล ลายสอง ลายดอกแก้ว และลายสับปะรด เป็นต้น สำหรับรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มีหลายแบบ เช่น
๗. นำมาเคลือบเงา หรือทาวานิช
๘. หลังจากจักสานเรียบร้อยแล้ว จึงนำมาบุภายในด้วยผ้า ใส่ซิป ใส่หูกระเป๋า และทาเคลือบผิวนอกด้วยน้ำมันวาณิช แล้วผึ่งแดดให้แห้งประมาณครึ่งวัน ก่อนจะนำมาเก็บไว้ในโรงเรือนเพื่อเตรียมบรรจุลงถุง หรือกล่องส่งให้ลูกค้า หรือนำไปจัดแสดงและจำหน่ายในเทศกาลต่าง ๆ
เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต

๑. เลือกสรร วัตถุดิบต่างๆ ที่มีคุณภาพ มีความคงทน
๒. สร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าและตลาดยอมรับ
๓. ส่งสมาชิกเข้าร่วมในการอบรมให้ความรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
๔. จัดส่งสินค้าให้ลูกค้าทันตามกำหนด
๕. วิเคราะห์ความต้องการของตลาด
๖. ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อยู่เสมอและเข้าร่วมในการจำหน่ายสินค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
กลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านเกี๋ยงลุ่มที่อยู่ 46 3 - - ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 0
08-21807647
ประธานกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ
นางวันดี ตันติ๊บที่อยู่ 46 3 - - ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 0
08-21807647
แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์
กลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านเกี๋ยงลุ่ม เลขที่ 46 หมู่ที่ 3ตำบลแม่ลอย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
ติดต่อ นางวันดี ตันติ๊บ
โทร. 08-21807647
ที่มา:http://www.otoptoday.com/wisdom/427/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น